สองล้อ จัดทีมงานและอุปกรณ์ชุดใหญ่ ถ่ายทอดสดศึกบีเอ็มเอ็กซ์ ปทท. สนาม 2 ใช้กล้องถึง 12 ตัว พร้อมโดรนถ่ายมุมสูง ด้านทีมชาติแยก 2 ชุดบู๊ศึกใหญ่ 2 รายการ

“สองล้อ” จัดทีมงานและอุปกรณ์ชุดใหญ่ ถ่ายทอดสดศึกบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนาม 2 วันที่ 3-4 เม.ย.64 ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี โดยใช้กล้องถึง 12 ตัว ติดตั้งเอาไว้ทุกมุมรอบสนาม พร้อม “โดรน” บินถ่ายภาพมุมสูงอีก 1 ตัว เพื่อให้แฟนกีฬาจักรยานได้รับชมการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น และได้อรรถรสในการรับชมเหมือนอยู่ในสนามแข่งขันจริง พร้อมถ่ายทอดสดครบทุกรุ่นทั้งในรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ ด้านแผนการเตรียมทีมชาติ “เสธ.หมึก” เผยแบ่งนักปั่นออกเป็น 2 ชุด ลงชิงชัยศึก “บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่โคลอมเบีย และชิงแชมป์เอเชีย 2021 ที่อินโดนีเซีย

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 สนามที่ 2 รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เวลา 12.00 น. มีผู้สมัครเข้าแข่งขันประมาณ 300 คน คาดว่ากว่าจะปิดรับสมัครในวันที่ 31 มีนาคม เวลา 12.00 น. จะมียอดผู้สมัครทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มากกว่า 400 คน

พลเอกเดชา กล่าวว่า การที่มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไปร่วมการแข่งขันมากกว่า 400 คน จะมีบรรดาผู้ปกครองและผู้ติดตามนักกีฬาหลั่งไหลไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 2,000 คน ซึ่งจะมีการเข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ จนเต็มเกือบหมด ส่งผลให้ร้านอาหาร และพ่อค้า-แม่ค้าในชุมชน หรือระดับรากหญ้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอย รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดสุพรรณบุรี เช่น วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร, หอคอยบรรหาร-แจ่มใส, อุทยานมังกรสวรรค์ ก็จะมีผู้ไปเยือนมากกว่าปกติ เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดให้คึกคัก 

“ขณะที่มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีการคัดกรองในสนามแข่งขัน 2 ชั้น คือ ชั้นแรกทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนตั้งแต่ทางเข้าสนาม ส่วนชั้นที่สองจะเป็นจุดคัดกรองที่ตรวจอย่างเข้มข้น นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมที่ลงทะเบียนมาล่วงหน้า ต้องแสดง QR Code เพื่อตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติ พร้อมทั้งสแกน QR Code “ไทยชนะ” เพื่อเช็คอิน และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ก่อนจะผ่านจุดคัดกรองต้องวัดอุณหภูมิร่างกายอีกรอบ มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่รถจักรยาน และนักกีฬาต้องล้างเท้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ส่วนสนามแข่งขันจะปิดกั้นพื้นที่ทั้งหมด โดยเปิดให้มีการเข้า-ออกทางเดียว” พลเอกเดชา กล่าว

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะยึดมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในคู่มือที่ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการหลัก 5 ข้อ คือ สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์, เว้นระยะห่าง, หลีกเลี่ยงการสัมผัส และจำกัดจำนวนคน แม้ว่า ศบค. จะอนุญาตให้มีผู้ชมในสนามได้แล้ว แต่สมาคมฯ จะจำกัดจำนวนผู้ชมไม่เกิน 300 คน และทุกคนต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกัน โดยจะมีสติกเกอร์ติดที่เสื้อ เมื่อครบจำนวน 300 คนแล้ว จะไม่อนุญาตให้เข้าไปในสนามเพิ่มอีก แต่สมาคมฯ ได้จัดโทรทัศน์วงจรปิดให้ชมด้านนอกสนาม หรือสามารถชมผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และช่องยูทูบ Thaicycling Association ได้ตลอดการแข่งขันทั้ง 2 วัน

“สำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์สนามนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เตรียมทีมงานและอุปกรณ์ชุดใหญ่เป็นพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จากเดิมเคยใช้กล้องถ่ายทอดสดเพียง 4 ตัว แต่ในสนามที่ 2 นี้ จะใช้กล้องถ่ายทอดสดถึง 12 ตัว ติดตั้งเอาไว้ทุกมุมรอบสนาม พร้อมโดรนบินถ่ายภาพมุมสูงอีก 1 ตัว การที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ทุ่มงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ถ่ายทอดสดมาเพิ่ม เพราะต้องการให้แฟนกีฬาจักรยานได้รับชมการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น พร้อมกับชมภาพสวย ๆ ทุกมุม โดยเฉพาะในแต่ละโค้งที่นักกีฬาปั่นเบียดสู้กันมา ผู้ชมทางบ้านจะได้อรรถรสในการชมเหมือนเข้าไปอยู่ในสนามแข่งขันจริง ส่วนโปรแกรมการถ่ายทอดสดวันเสาร์ที่ 3 เมษายน เริ่มตั้งแต่พิธีเปิด เวลา 08.30 น. ต่อด้วยการแข่งขันรอบคัดเลือกครบทุกรุ่น ส่วนวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จะถ่ายทอดสดครบทุกรุ่น ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนเสร็จสิ้นการแข่งขัน” พลเอกเดชา กล่าว

นอกจากนี้ พลเอกเดชา ยังเปิดเผยอีกว่า ส่วนแผนการเตรียมนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย หลังจากที่ฝ่ายเทคนิคฯ มีการหารือ มร.อดัม แครี่ ผู้ฝึกสอนชาวออสเตรเลีย และ “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนชาวไทย สรุปว่าจะแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นนักกีฬาหญิง 2 คน ได้แก่ น.ส.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ น.ส.วรัญญา แซ่แต้ จะไปร่วมแข่งขันรายการ “บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม เพื่อเก็บคะแนนสะสมให้ได้โควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหตุผลที่เอานักกีฬาหญิงไปเพียง 2 คน เนื่องจากมีโอกาสลุ้นไปโอลิมปิกมากที่สุด โดย มร.อดัม และ โค้ชอัถร เป็นผู้ควบคุมนักกีฬาไปแข่งขัน 

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนชุดที่สองจะไปแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย 2021 ที่ประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะแข่งขันระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน นักกีฬามี 5 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย 3 คน นำโดย “เอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ, นายสมคิด ฮาระตะวัน, นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, รุ่นเยาวชนชาย 2 คน ได้แก่ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ และ นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ โดยมี นายจีรพล ปัทมินทร์ และ น.ส.มณีรัตน์ รุ่งเรืองศักดิ์ เป็นผู้ควบคุมทีม การที่สมาคมฯ ส่งนักกีฬาไปแข่งขันแต่ละรายการจำนวนจำกัดนั้น เป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเน้นนักกีฬาที่มีความหวังจริง ๆ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 2 วันศุกร์ที่ 2 เมษายน เวลา 17.00 น. ประชุมผู้จัดการทีม ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต, วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พิธีเปิดการแข่งขันเวลา 08.30 น. จากนั้นเริ่มแข่งขันรอบคัดเลือกทุกรุ่น ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ส่วนวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

อนึ่ง นักกีฬาที่ต้องการทำประกันอุบัติเหตุ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประสานงานกับ บริษัท รู้ใจ จำกัด หรือประกันภัย “รู้ใจดอตคอม” มาตั้งบูธให้บริการในวันแข่งขัน โดยนักกีฬาสามารถทำประกันอุบัติเหตุในราคา 60 บาท กรมธรรม์ครอบคลุมตลอดการแข่งขันทั้ง 2 วัน ส่วนนักกีฬาที่ต้องการสมัครเข้าแข่งขันสามารถเข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.